[FAQ] ถามมาตอบไป 10 ข้อสงสัยเกี่ยวกับรากฟันเทียม

รากฟันเทียม

ในอดีตหากฟันแท้ของเรามีปัญหา หรือต้องสูญเสียฟันแท้ซี่นั้นไป จะต้องทำฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปให้ใช้งานในการเคี้ยวอาหารได้ แต่ถึงอย่างไรฟันปลอมก็ไม่เหมือนฟันแท้อย่างแน่นอน

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านทันตกรรมพัฒนาไปไกลทำให้เรามี  “รากฟันเทียม”  ที่จะช่วยให้เรามีฟันที่ใช้การได้ใกล้เคียงกันฟันจริงมากที่สุด และบำรุงรักษาง่าย หลายคนอาจจะสงสัย และอยากรู้ว่า รากเทียมคืออะไร และทำไมต้องใส่รากฟันเทียม วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

1. รากฟันเทียม หรือ รากเทียม คืออะไร

Dental Implant | รากฟันเทียม คือ วัสดุที่ทำจากไทเทเนียม รูปร่างคล้ายสกรูน็อต ใส่เข้าไปยึดกับกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติของฟันที่สูญเสียไป รากฟันเทียมสามารถใช้เป็นฐานการใส่ฟันปลอม ทั้งชนิดถอดได้ และชนิดติดแน่น เพื่อช่วยให้ฟันปลอมยึดติดได้ดี และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าฟันปลอมธรรมดา โดยต้องรอให้รากเทียมประสานกับกระดูกขากรรไกรสนิทก่อน จึงจะสามารถใส่ฟันปลอมได้ เนื่องจากรากเทียมเป็นวัสดุที่ทำจากไทเทเนียม จึงไม่มีโอกาสผุเหมือนฟันธรรมชาติ

2. รากฟันเทียมมีไว้เพื่ออะไร

รากเทียมมีไว้เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่บาดเจ็บจากฟันผุ โรคเหงือก การถอนฟัน หรือการสูญเสียฟันที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ (ฟันหายไป) และหากมีการสูญเสียฟันจำนวนหลายซี่ ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยและฝังรากฟันเทียมจำนวนหลายชิ้นเพื่อเป็นฐานรองรับสะพานฟันหรือฟันปลอมแบบถอดได้

หากคนไข้ต้องการรักษาด้วยการใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียด เพื่อดูว่าคนไข้สามารถใส่รากเทียมได้หรือไม่ เพราะต้องมีการผ่าตัดเล็ก ๆ เพื่อฝังรากเทียมลงไปในกระดูก ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ ระหว่างการรักษาจะกินเวลาไม่มากนัก แต่มักจะมีระยะเวลาการรอที่ค่อนข้างนาน เพื่อให้รากเทียมและกระดูกผสานกัน โดยระยะเวลาการรอจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน

3. ทำไมเราถึงต้องทำรากฟันเทียม

การดูแลรากฟันแท้มีข้อจำกัดนอกเหนือจากการดูแลปาก และฟันให้สะอาดด้วยการแปรงฟัน เพราะถึงแม้เราจะดูแลรักษาความสะอาดฟันเป็นอย่างดีแล้ว แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น ฟันแตกจากการบดเคี้ยว ฟันแตกจากอุบัติเหตุ หรือแม้แต่กรณีที่เกิดมาแล้วไม่มีฟันในซี่นั้น ๆ หรืออาจจะจัดฟันแล้วเกิดช่องว่างจำเป็นต้องมีฟันเพิ่มเติม เหล่านี้จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการสร้าง “รากฟันเทียม” ขึ้นมาทดแทนรากฟันจริง

4. ใครที่เหมาะกับการใส่รากฟันเทียม

คนทั่วไปจะใส่รากฟันเทียม เพื่อทดแทนฟันที่หายไปได้ แต่อาจจะมีบางรายที่แพทย์พิจารณาว่าอาจเป็นอันตราย หรือมีวิธีอื่นที่อาจได้ผลดีกว่า เช่น ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ กำลังรับประทานยาที่จำกัดทางเลือก มีกระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ หรือเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ที่มีความเสี่ยงที่รากฟันเทียมจะหลวม และต้องถูกถอดออก ดังนั้นก่อนใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์จะเป็นผู้ตรวจสุขภาพปาก และฟันโดยละเอียด เพื่อมองหาความเป็นไปได้ในการใส่รากฟันเทียม และหาวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาฟัน

5. ทำรากฟันเทียมใช้เวลานานไหม

การทำรากฟันเทียม แบ่งการรักษาเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรก จะใส่รากฟันเทียมไปในกระดูกรองรับรากฟัน แล้วรอให้รากฟันยึดติดกับกระดูก การทำรากฟันเทียมครั้งแรกนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของคนไข้ และการเลือกชนิดรากฟันเทียมมาใช้ด้วย ครั้งที่สอง หลังจากรากฟันเทียมยึดติดกระดูกแล้ว ก็จะทำในส่วนของการใส่ฟันบนรากฟันเทียมที่มีการยึดกระดูกแล้ว

6. รากฟันเทียมมีอายุใช้งานนานเท่าไหร่

รากเทียม สามารถอยู่ได้นาน 10 – 20 ปีขึ้นไป ถ้าเราดูแลที่ดี เช่น ทำความสะอาดดี ๆ (แปรงฟันถูกวิธีร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน), การไม่เคี้ยวของแข็งจนเกินไป เพราะสามารถทำให้ครอบรากเทียมแตกได้ และการหมั่นมาเช็คสภาพกับคุณหมอเป็นประจำเท่านี้ก็สามารถยืดอายุการใช้งานได้

7. รากฟันเทียมประกอบด้วยอะไรบ้าง

ใส่รากฟันเทียม
ครอบฟัน (Crown)
  • ครอบฟัน (Crown) เป็นส่วนที่ยึดกับ Abutment ตัวฟันทำจากเซรามิก สีเหมือนฟันมีรูปร่างเหมือนฟันธรรมชาติเ
ส่วน Abutment
  • Abutment คือ ส่วนที่ต่อขึ้นมาจาก ส่วนราก Fixture เพื่อรองรับครอบฟันที่จะมาใส่ ที่ถูกนำมาใช้ทดแทนโครงสร้างแกนฟัน ต่อจากส่วน body ทำจากไททาเนียมหรือเซรามิค
รากเทียมที่ฝังลงไปในกระดูก
  • Implant body หรือ Fixture คือ ส่วนที่อยู่ในกระดูกขากรรไกร ฝังตรงใต้เหงือก ทำให้หน้าที่แทนรากฟันจริง มีลักษณะคล้ายสกรู

*ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้การรักษารากเทียมได้สำเร็จ คือ ปริมาณและคุณภาพของกระดูกรองรับรากเทียม…[คลิกอ่านเพิ่มเติม]

8. ทำรากฟันเทียม ต้องดูแลรักษาอย่างไร

  • เพิ่มอายุการใช้งานด้วยการทำความสะอาดช่องปากให้ถูกวิธี เช่น การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน
  • พบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • ระมัดระวังการเคี้ยวอาหาร หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง เพื่อรักษารากฟัน
  • เลือกใช้รากฟันเทียมที่มีคุณภาพ และเลือกทำรากฟันเทียมกับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

9. ทำรากฟันเทียมแล้วดียังไง

  • เพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิก พูด และยิ้มได้อย่างเต็มที่
  • ทำให้สุขภาพในช่องปากดีขึ้น และช่วยรักษาเนื้อเยื่อของเหงือก เนื่องจากโครงสร้างของฟันสมบูรณ์ และแข็งแรง
  • ทำให้เคี้ยวอาหารได้สะดวกขึ้น และรับประทานอาหารได้ปกติ
  • ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในช่องปากได้

10. ข้อจำกัดในการรักษารากฟันเทียมมีอะไรบ้าง

  • ราคาสูงกว่าฟันปลอมประเภทอื่น
  • การทำรากฟันเทียมไม่สามารถทำในเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • มีข้อจำกัดสำหรับผู้มีโรคประจำตัว
  • คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราจัดมีความเสี่ยงในการรักษา
ทพ.ชัชชัย คุณาวิศรุต

“ฟันจริง” อย่างไรก็ดีกว่า “ฟันเทียม”

 

อยากให้ทุกคนมาใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดให้ฟันของเราอยู่ในช่องปากได้นานที่สุด ให้รากฟันเทียมเป็น “ฟันชุดสุดท้าย” ในกรณีที่จำเป็นต้องสูญเสียฟันจริงไปแล้วดีกว่า

 

โดย ผศ.รท.ทพ.ชัชชัย คุณาวิศรุต
( ทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาทันตกรรมรากเทียม
ศูนย์ทันตกรรม BIDC รัชดาภิเษก )

สรุป

ปัจจุบันรากฟันเทียม ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพราะการทำรากฟันเทียมเป็นส่วนสำคัญในการทำฟันเทียมเกือบทุกกรณี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความต้องการฝังรากฟันเทียมต้องศึกษาหาข้อมูลของรากฟันเทียมแต่ละยี่ห้อ และปรึกษาทันตแพทย์ ซึ่งทันตแพทย์จะเลือกรากฟันเทียมที่เหมาะสมให้คนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุด

โดยส่วนใหญ่แล้วคนไข้ที่มีสุขภาพแข็งแรงทุกคนสามารถเข้ารับการเปลี่ยนรากฟันเทียมได้ แต่สำหรับคนไข้อายุน้อย ทันตแพทย์จะไม่แนะนำ หากมีการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมให้กับเด็กที่ร่างกายยังมีภาวะการเติบโต ฟันซี่ใหม่ที่งอกขึ้นมาอาจเบียดกับรากฟันเทียมซึ่งไม่สามารถขยับได้เหมือนกับฟันจริง ทำให้ฟันผิดรูปหรือผิดระดับได้ และสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัด หรือต้องรับประทานยาบางชนิดที่มีผลกับการผ่าตัดก็เป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนรากฟันเทียมได้

ทันตแพทย์ รากฟันเทียม

ติดต่อเรา คลินิกจัดฟัน รัชดา

ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์
157, 159 รัชดาภิเษก ซอย7 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 ประเทศไทย

โทรศัพท์ : +66 (2) 694 6400+66 (2) 692 4433
อีเมล์ : contact@bangkokdentalcenter.com

Line ID : @bidcdental

สแกน QR Code ปรึกษาเราที่นี่

@bidcdental
@bidcdental