การครอบฟัน (Dental Crowns) เป็นการบูรณะ และปกป้องฟันที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเกิดจากการ แตก หัก บิ่น ฟันผุ ฟันสึก รวมถึงฟันที่ได้รับการรักษารากฟันมาก่อน ซึ่งจะเป็นการเสริมความแข็งแรง และปกป้องฟันซี่ที่เสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้ในบางกรณีก็ทำการครอบฟันปกป้องฟันแท้ และจัดช่องฟันให้สวยงามอีกด้วย แล้วถ้าหากเราทำการรักษาครอบฟันไป แล้วครอบฟันแตก ร้าว หลุด ล่ะ จะทำยังไงดี? วันนี้ทางศูนย์ทันตกรรม BIDC เราจะพามาดูกันค่ะ ว่าการที่ “ครอบฟันหลุด ร้าว แตก” จริง ๆ แล้วมีวิธีขั้นตอนการรักษายังไงบ้าง
สารบัญความรู้เกี่ยวกับ “ครอบฟัน” [คลิกอ่านตามหัวข้อ]
ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหัก ครอบฟันหลุด วิธีการรักษามีอะไรบ้าง?
แนวทางการรักษาหากคุณมีฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหัก ครอบหลุด ครอบฟันแตก :
ครอบฟันหลุด
หากครอบฟันหลุด ควรรีบไฟพบหมอฟันทันที พร้อมนำครอบฟันที่หลุดไปด้วย โดยคุณหมอจะทำการตรวจเบื้องต้น เอกซเรย์ และประเมินว่าสามารถครอบฟันใหม่ได้ทันทีหรือไม่
หากพบว่ามีความเสียหายเล็กน้อย อาจสามารถซ่อมแซมได้ทันที โดยใช้วัสดุสีเหมือนฟัน (คอมโพสิตเรซิน) แต่หากเสียหายมากก็อาจจะต้องทำครอบฟันใหม่ สำหรับบางกรณีก็ไม่สามารถครอบฟันกลับทันทีได้ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์
ครอบฟันแตก
กรณีที่ครอบแตกเพียงเล็กน้อย ยังอาจสามารถใช้คอมโพสิตเรซิน (วัสดุสีเหมือนฟัน) ในการซ่อมแซมครอบฟันนั้นได้
แต่ในกรณีที่ครอบฟันแตกแบบมีรอยร้าวมาก จำเป็นต้องทำใหม่ครอบฟันใหม่ เพื่อแทนครอบเดิมที่แตกไป
ที่ศูนย์ทันตกรรม BIDC เราเลือกใช้วัสดุ IPS Empress Esthetics ในการทำครอบฟันแบบเซรามิกล้วน เพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่ดีที่สุด – อ่านเพิ่มเติม
ฟันแตกขนาดใหญ่
ฟันแตกขนาดใหญ่ ทำการรักษาด้วยการครอบฟัน ทำครอบฟันทันที (One Day Crown) และสร้างครอบชั่วคราวให้แก่คนไข้
ฟันหัก
หากมีฟันหัก กรณีที่เนื้อฟันเหลือน้อยเกินไปจนไม่สามารถแก้ไขด้วยการอุดฟัน อาจพิจารณาทำครอบฟันทันที และสร้างครอบชั่วคราวให้แก่คนไข้เพื่อให้ใช้งานได้
ฟันหักมักเกิดจากอุบัติเหตุ จึงไม่อาจป้องกันได้ทั้งหมด แต่มีวิธีลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนี้ – อ่านเพิ่มเติม
ขั้นตอนการครอบฟัน [ Dental Crowns ]
การทำครอบฟันมีขั้นตอนต่อไปนี้ :
- ครั้งที่ 1 : คนไข้จะต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อได้รับการตรวจประเมินว่าฟัน มีการ X-ray ร่วมด้วย ตรวจประเมินว่าเนื้อฟันที่เหลืออยู่เป็นอย่างไร สามารถที่จะทำครอบฟันได้หรือไม่ เสร็จแล้วก็จะพิมพ์ปากผู้ป่วยครั้งแรก เพื่อส่งทำครอบฟันชั่วคราว สำหรับใช้งานระหว่างการรอชิ้นงานจากแลปทันตกรรม
- ครั้งที่ 2 : คือการรื้อครอบฟันแบบชั่วคราวออก และทำการยึดครอบฟันแบบถาวรบนฟันที่กรอ ตรวจเช็คและการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมสวยงามที่สุด ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำด้านการดูแลทำความสะอาดเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
ภาพตัวอย่างการรักษาครอบฟัน (Dental Crowns)
ทันตกรรมเพื่อความงาม
Cosmetic Dentistry
Photo Credit : คุณหมอพีรพัฒน์
(ทันตแพทย์ประดิษฐ์ ศูนย์ทันตกรรม BIDC)
ทันตกรรมครอบฟัน
Dental Crowns
Photo Credit : คุณหมอศริญญา
(ทันตแพทย์บูรณะฟันและตกแต่ง ศูนย์ทันตกรรม BIDC)
ดูรีวิวเพิ่มเติม : ทำฟันที่ไหนดี รีวิวจัดฟัน ครอบฟัน วีเนียร์ รากเทียม (คลิก)
ครอบฟัน ต้องทำเมื่อไหร่?
การทำครอบฟันแบ่งเป็น 3 กรณี ดังต่อไปนี้ :
การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment)
กรณีที่ 1 คือ ฟันที่ได้รับการรักษารากฟัน โดยฟันก่อนที่จะได้รับการรักษาราก เนื้อฟันจะสูญเสียไปเยอะ และขั้นตอนในการรักษารากฟัน เราจะต้องกรอเนื้อฟันเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นเนื้อฟันจะหายไป เป็นปริมาณมากกว่าครึ่ง ดังนั้นเราควรที่จะได้รับการทำครอบฟัน เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
ข้อมูลเพิ่มเติม : รักษารากฟัน คืออะไร? ทำไมเราต้องรักษารากฟัน (คลิกอ่าน)
ครอบฟันแตก ครอบฟันร้าว
กรณีที่ 2 คือ เป็นกรณีที่ฟันร้าว หรือว่าฟันแตก กรณีที่ฟันร้าว จะทำครอบฟันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันร้าวมากขึ้น หรือเกิดการแตกหักสูญเสียไปในอนาคต ส่วนในกรณีที่ฟันแตก จะทำการครอบฟันเพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
ข้อมูลเพิ่มเติม : การทำครอบฟันด้วยทันตกรรมดิจิทัล ที่ ศูนย์ทันตกรรม BIDC (คลิกอ่าน)
ฟันสึก ฟันผุขนาดใหญ่
กรณีที่ 3 คือ ในกรณีที่ฟันมีการสึกมาก หรือว่ามีรูผุขนาดใหญ่ เราจะใช้ทันตกรรมครอบฟันเพื่อให้ฟันสามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติเหมือนเดิม
ข้อมูลเพิ่มเติม : วิธีการป้องกันฟันสึกมีอะไรบ้าง (คลิกอ่าน)
วิธีการดูแลหลังการครอบฟัน (Dental Crowns)
หลังจากทำครอบฟันแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาสามารถใช้ฟันได้เป็นปกติ แต่การครอบฟันนั้นไม่ได้หมายความว่าฟันจะถูกปกป้องจากฟันผุ และโรคเหงือก
ดังนั้น ยังคงต้องรักษาสุขอนามัยของช่องปากให้ดีอยู่เสมอ โดยการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันโดยเฉพาะบริเวณที่มีการครอบฟัน รวมไปถึงการบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ต่อต้านแบคทีเรียอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
นอกจากนั้น อายุการใช้งานของฟันที่ครอบนั้นแล้วแต่การปฏิบัติตัวของผู้ที่ได้รับการครอบฟัน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาสุขอนามัยของช่องปาก และนิสัยการบดเคี้ยว เช่น การเคี้ยวน้ำแข็ง หรือใช้ฟันเปิดหรือฉีกผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้น (ครอบฟันจะอยู่ได้นานกี่ปี .. อ่านต่อ)
ประโยชน์ของการทำครอบฟัน
ปกป้องฟันที่อ่อนแอ เนื่องจาก แตก หัก บิ่น มีการผุมาก หรือได้รับการรักษารากฟัน และช่วยให้มีความแข็งแรงดังเดิม
ช่วยบูรณะฟันที่มีรูผุใหญ่ หรือมีวัสดุอุดเดิมที่ใหญ่เกินไปได้
ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความสวยงาม และรอยยิ้ม
ช่วยแก้ปัญหาฟันสึก เพื่อไม่ให้มีการสึกเพิ่มมากขึ้น
สามารถช่วยปกปิดสภาพฟันที่ดูไม่ดี / มีสีฟันที่ไม่ปกติ
สามารถรักษาตำแหน่งฟันและประสิทธิภาพการทำงานให้เหมือนดังเดิม
ช่วยให้ดูเด็กลง เพราะครอบฟันสามารถปรับรูปร่าง และสีของฟันได้
เป็นองค์ประกอบในการทำ สะพานฟัน และรากฟันเทียม
อาการที่พบหลังจากการรักษาครอบฟัน
- คนไข้บางรายอาจจะมีอาการเสียวฟัน ในช่วงแรก ๆ ซึ่งทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟันร่วมด้วย
- อาการแพ้ กรณีนี้พบได้ค่อนข้างน้อยมาก การแพ้เกิดจากครอบฟันที่ใช้การผสมวัสดุซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการแพ้โลหะหรือเซรามิกที่ใช้ เมื่อรู้สึกผิดปกติหลังการครอบฟัน ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที
- อาจจะมีรอยดำบริเวณแนวเหงือก กรณีมักเกิดขึ้นในกรณีคนไข้เลือกใช้ครอบฟันแบบที่มีโลหะผสม เพราะโลหะจะมีสีที่เข้มกว่า จึงเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
- หากครอบฟันหลุด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ขนาดของครอบฟันไม่พอดีกับฟันแท้, ฟันผุซ้ำ รากฟันติดเชื้อ รวมถึงกาวน์เสื่อมสภาพ เป็นต้น
หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบกลับมาพบทันตแพทย์ทันที (ติดต่อเราที่นี่)
สรุป
การดูแลสุขภาพของช่องปาก และฟันอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ รักษารากฟัน หรือครอบฟัน ควรทำความสะอาดฟันให้ถูกต้อง และตรวจสุขภาพฟันทุก 6 – 12 เดือน และไปตรวจตามเวลาที่ทันตแพทย์นัดหมาย เท่านี้คุณก็จะมีสุขภาพช่องปาก และฟันที่แข็งแรง สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ
ศูนย์ทันตกรรม BIDC ของเรามีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะทำให้คุณมั่นใจในการรักษา และการบริการของเราที่พร้อมดูแลคุณ ให้คุณมีสุขภาพช่องปาก และฟันที่สวยงาม พร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจ
BIDC เราเปิดให้บริการทุกวัน ดูแลทุกท่านด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง
“ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหัก ครอบฟันหลุด ครอบฟันแตก Add Line คลินิกทำนัดได้เลยค่ะ”
ติดต่อเรา คลินิกทันตกรรม BIDC รัชดา
ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์
157, 159 รัชดาภิเษก ซอย7 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : +66 (2) 694 6400, +66 (2) 692 4433
อีเมล์ : contact@bangkokdentalcenter.com
Line ID : @bidcdental
สแกน QR Code ปรึกษาเราที่นี่