ด้วยวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีและพัฒนาการทางเทคนิคและวิธีการทางทันตกรรม ทำให้การปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมและ การปลูกรากฟันเทียมแบบทันทีการปลูกถ่ายกระดูก สามารถทำได้โดยง่าย และยังช่วยให้มีระดับความสำเร็จที่สูงขึ้นอีกด้วย
การพัฒนาด้าน เทคโนโลยีที่ใช้ในการปลูกรากฟันเทียมและเทคนิคใหม่ๆ ช่วยให้ การปลูกรากฟันเทียมแบบทันที และการปลูกรากฟันเทียมแบบทันทีพร้อมครอบฟันสามารถทำได้ด้วยระยะเวลาในการรักษาที่สั้นลง
เนื้อหาการปลูกรากเทียมแบบทั่วไป
- การปลูกรากฟันเทียมมีกี่แบบ
- ขั้นตอนในการปลูกรากเทียมแบบทั่วไป
- อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด
- รากฟันเทียม ราคา
- ข้อดีของรากฟันเทียม
- คำแนะนำหลังการเข้ารับการผ่าตัดปลูกรากเทียม
- การดูแลรักษารากฟันเทียม
ราคา รากฟันเทียม 2024
ราคารากฟันเทียมวันนี้
ราคารากฟันเทียม
ปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม P-I Brånemark
25,000 (ราคาจาก 45,000)
ราคาครอบฟันบนรากเทียม
14,000 – 20,000 บาท (ราคาจาก 25,000)
ราคารากฟันเทียม
ปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม SIC
35,000 บาท (ราคาจาก 55,000)
ราคาครอบฟันบนรากเทียม
25,000 บาท
ราคาฝังรากฟันเทียม
รากฟันเทียมไททาเนียม Straumann SLA
54,000 บาท (ราคาจาก 65,000)
ราคาครอบฟันบนรากเทียม
25,000 บาท
การปลูกรากฟันเทียม มีด้วยกัน 3 แบบ
- การปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป : การปลูกรากฟันเทียมแบบนี้ เป็นวิธีการที่นิยมใช้โดยทั่วไป เหมาะกับผู้ที่มีเวลา ใช้ระยะเวลาการรักษาจนใส่ครอบฟันประมาณ 2 เดือน
- การปลูกรากฟันเทียมแบบทันที : เป็นวิธีการที่สามารถปลูกรากฟันเทียมได้ทันที ภายหลังการถอนฟัน เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณกระดูกดีและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์
- การปลูกรากฟันเทียมแบบพร้อมครอบฟันทันที : เป็นการปลูกรากฟันเทียม ที่ทันตแพทย์จะใส่ครอบฟัน หรือสะพานฟัน ทั้งแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์) ทันทีหลังได้รับการปลูกรากฟันเทียม เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเวลาและสูญเสียฟันบริเวณด้านหน้าไป
ขั้นตอนในการปลูกรากฟันเทียมแบบทั่วไป
ครั้งที่ 1 การปรึกษาและการตรวจวินิจฉัย
- ทันตแพทย์รากเทียมจะตรวจวินิจฉัย และถ่ายเอ๊กซเรย์ / CT Scan เพื่อวางแผนการรักษาที่ถูกต้องรวมถึงการกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
- หากคนไข้สูญเสียฟันมานานแล้วและมีปริมาณกระดูกเพียงพอ สามารถผ่าตัดฝังรากเทียมได้ภายในครั้งแรกเลย แต่หากมีปริมาณกระดูกบริเวณที่จะทำรากเทียมไม่เพียงพอนั้น ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกก่อนที่จะดำเนินการปลูกรากฟันเทียมต่อไป
- ทันตแพทย์รากเทียมจะทำการฝังรากฟันเทียมลงบนกระดูกรองรับฟัน และทำการเย็บปิดแผล
- ทันตแพทย์จะนัดมาตรวจเช็คแผล และตัดไหมประมาณ 7 – 14 วันหลังการผ่าตัด
หลังการผ่าตัดปลูกรากฟันเทียม คนไข้ต้องใช้เวลารอประมาณ 2 –3 เดือน เพื่อรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกโดยรอบได้สมบูรณ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณสมบัติของรากเทียมที่ใช้
ครั้งที่ 2 การพิมพ์ปาก (Impression)
- ทันตแพทย์จะใส่แกนฟันจำลอง (coping) เพื่อทำการพิมพ์ฟันให้คนไข้
- นำชิ้นงานที่พิมพ์แล้วส่งแลปทันตกรรมเพื่อทำตัวครอบฟัน/สะพานฟัน
- รอแลปทันตกรรมผลิตชิ้นงานใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน
- ในกรณีที่ใช้เทคโนโลยี CAD/CAM ในการทำครอบฟัน อาจใช้เวลาผลิตชิ้นงานเพียง 1 วัน
ครั้งที่ 3 การใส่ครอบฟัน
- ทันตแพทย์จะใส่แกนฟันตัวจริง (abutment) และใส่ครอบฟัน/สะพานฟันตัวจริง
- ปรับการสบฟันให้สามารถกัดสบและการบดเคี้ยวเป็นปกติ
- ทันตแพทย์จะนัดเช็คทุก 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์
ข้อดีของรากฟันเทียม
- ไม่สูญเสียเนื้อฟันซี่ข้างเคียงเหมือนการทำสะพานฟัน
- ช่วยรักษากระดูกบริเวณที่สูญเสียฟันไม่ให้สลายไป
- การใช้งานเสมือนฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมชนิดอื่นๆ
- เพิ่มความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- เป็นการรักษาที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเจ็บปวด แผลมีขนาดเล็ก
- ใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นานเพียง 30-60 นาที/ซี่
- สามารถใช้งานบดเคี้ยวได้ดี
- ไม่มีปัญหากับการออกเสียง เมื่อเทียบกับฟันปลอมชนิดอื่นๆ
- ให้ความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- มีอายุการใช้งานยาวนาน คงทน และถาวร
- เมื่อร่วมกับฟันปลอมแบบถอดได้ ไม่มีปัญหาฟันปลอมขยับระหว่างพูดคุย หรือรับประทานอาหาร
คำแนะนำหลังการเข้ารับการผ่าตัดปลูกรากเทียม
- ภายในวันแรกหลังการผ่าตัดควรรับประทานอาหารชนิดเหลวเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเศษอาหารและการก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่บาดแผล หลังจากนั้น ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ หรือเคี้ยวง่ายๆต่อไปประมาณ 1 สัปดาห์
- ห้ามรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดภายในวันแรกหลังการผ่าตัด
- อาการบวมเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด ทั้งนี้หากผู้เข้ารับบริการมีอาการบวมมากผิดปกติหรือเกิดอาการเจ็บปวด หรือ อาการเลือดไหลไม่หยุด ให้รีบติดต่อทันตแพทย์หรือศูนย์ทันตกรรมทันที
- ควรใช้น้ำยาบ้วนปากแบบฆ่าเชื้ออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าและก่อนนอน โดยผสมน้ำยา 1 ฝากับน้ำอุ่นแล้วอมไว้ประมาณ 1 นาที ใช้ติดต่อกันจนหมด
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มมึนเมา
- ไม่ควรสวมใส่ฟันปลอมเก่าจนกว่าจะได้รับการแก้ไขจากทันตแพทย์ เพราะอาจมีผลต่อบริเวณแผลและการล่าช้าในการสมานของแผล
- หลีกเลี่ยงการบดเคี้ยว หรือการรับแรงกระแทกบริเวณที่ปลูกรากฟันเทียมในช่วงรักษาแผล
- ควรนอนบนหมอนสูงในช่วงระยะแรกหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหลังการผ่าตัด
การดูแลรักษารากฟันเทียม
- ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้งร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน และควรใช้แปรงซอกฟันในการทำความสะอาดซอกฟันเพื่อป้องกันคราบแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและปัญหาในช่องปากต่างๆ
- ก่อนเข้านอนควรบ้วนปากด้วยน้ำยาที่ผสมสารฟลูออไรด์ โดยกลั้วปากนานอย่างน้อย 1 นาทีและไม่ควรรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำภายใน 30 นาที เพื่อสุขอนามัยของปากและฟันที่ดี
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งเช่น น้ำแข็งหรือกระดูกอ่อน ซึ่งสามารถทำให้ครอบฟันแตกหัก
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เนื่องจากจะก่อให้เกิดคราบ
- หากมีพฤติกรรมการนอนกัดฟัน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะดังกล่าว
- พบทันตแพทย์สม่ำเสมอ การพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจฟันและ สภาวะของรากฟันเทียม