ปัญหาฟันเหลือง เป็นปัญหาที่ทำให้หลายๆ คนหนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก เพราะการที่มีรอยยิ้มที่สดใส ฟันมีสีขาวดูสะอาด นับเป็นบุคลิกภาพที่ดี นอกจากหน้าตา ผิวพรรณ และรูปร่าง สิ่งเหล่านี้เป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจอย่างหนึ่ง ปัญหาสีฟันเหลืองอาจมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ โดยต้องหาสาเหตุก่อนว่าที่แท้จริงแล้วปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร
สาเหตุของฟันเหลือง พร้อมวิธีแก้ไข [คลิกอ่านตามหัวข้อ]
คราบเหลืองที่ฟัน คืออะไร
คราบเหลืองที่ฟัน คือ แผ่นคราบจุลินทรีย์ (Bacterial plaque) มีสีขาวขุ่น และนิ่ม ประกอบไปด้วยเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนฟัน เมื่อมีธาตุแคลเซียมจากน้ำลายเข้าไปตกตะกอน คราบจุลินทรีย์จะเกิดการแข็งตัวจนกลายเป็นคราบหินปูนนั่นเอง
ฟันเหลืองเกิดจากอะไร…
ส่วนใหญ่ฟันเหลืองมักเกิดจาก การที่เราแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีเชื้อโรคตกค้างอยู่ในช่องปาก และเกาะทับถมกันจนกลายเป็นคราบจุลินทรีย์ และพัฒนากลายเป็นคราบหินปูนที่ติดแน่นอยู่บนฟัน มีสีเหลือง ไม่สามารถแปรงฟันออกได้ จึงจำเป็นต้องเอาออกด้วยวิธีการขูดหินปูนโดยทันตแพทย์เท่านั้น
สาเหตุของฟันเหลือง เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี ผิวฟันของเราจะถูกเคลือบด้วยชั้นบาง ๆ โปร่งแสงสีขาว ซึ่งจะช่วยปกปิดชั้นเนื้อฟันที่มีสีเหลืองเอาไว้ แต่เมื่อไหร่ที่สุขภาพช่องปากไม่ดี ผิวฟันจะเริ่มผุกร่อน สีเหลืองของเนื้อฟันก็จะปรากฏออกมาให้เห็น
- อาหารและเครื่องดื่มสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง โซดา ช็อกโกแลต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผักผลไม้สีเข้ม อย่าง เบอร์รี่ เพราะการสะสมของคราบสีจากอาหาร และเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้ฟันเหลือง นอกจากนั้นเครื่องดื่มที่เป็นกรด อย่าง มะนาว โซดา ยังสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันของเราได้
- การสูบบุหรี่ นับเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของฟันเหลือง เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมี อย่างกำมะถัน และการเผาไหม้ ทำให้ยิ่งสูบบุหรี่มากเท่าไหร่ สารเคมีกำมะถัน ทาร์ จะยิ่งสะสมบนผิวฟัน และแทรกซึมเข้าไปในเนื้อฟันมาก จนเกิดเป็นคราบที่ทำให้ฟันเหลือง ซึ่งการมีคราบในปริมาณมาก การจะเอาออกก็เป็นเรื่องยากมากอีกเช่นกัน
- โรคและการใช้ยา การเจ็บป่วยหรือยาบางอย่างที่ใช้เป็นสาเหตุของฟันเหลืองได้เช่นกัน เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี ส่วนยารักษาโรคที่มีผลให้ฟันเหลืองก็เช่น ยารักษาโรคหอบหืด ยาโรคความดันโลหิตสูง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นเคลือบฟันจะเริ่มบางลง เป็นผลให้ฟันเหลืองได้
สีฟันที่เปลี่ยน มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
- ฟันสีน้ำตาล เกิดจากสารนิโคตินทำปฏิกิริยากับฟัน ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่สูบบุหรี่มานาน จนฟันเหลืองแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช้าๆ แล้วฝังอยู่ในเนื้อฟัน
- ฟันสีคล้ำ เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นใช้งานฟันมานานกับการกิน ดื่ม การใช้ชีวิตประจำวัน การนอนกัดฟันก็ทำให้สารเคลือบฟันกร่อนส่งผลให้ฟันมีสีคล้ำได้ รวมถึงการใช้ยาที่มีสารเตตร้าไซคลิน
- ฟันดำ เกิดจากฟันผุ การอุดฟันด้วย silver sulfide รวมถึงการกินอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก
- ฟันตกกระ เกิดจากการบริโภคฟลูออไรด์มากเกินไป
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ : ฟันตกกระ วิธีรักษาและป้องกันฟันด่างขาวมีอะไรบ้าง? (คลิกอ่าน)
ไม่อยากฟันเหลือง ปรึกษาเรา
วีธีแก้ฟันเหลือง มีอะไรบ้าง
แก้ฟันเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติ
- ออยล์ พูลลิ่ง (Oil Pulling) เป็นวิธีล้างพิษด้วยน้ำมัน หลักการคือใช้น้ำมันในการดูดสารพิษ แบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ ภายในปากให้หลุดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ในงานวิจัยบางชิ้นยังกล่าวว่าการล้างปากด้วยน้ำมันทำให้ฟันขาวขึ้นได้ วิธีการคือ อมน้ำมัน (นิยมใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา) แล้วกลั้วให้ทั่วปากประมาณ 15-20 นาที จากนั้นให้บ้วนออก แล้วแปรงฟันให้สะอาดอีกครั้ง
- ใช้ผงฟู หรือ Baking Soda หลายคนอาจไม่รู้ว่ายาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวโดยส่วนใหญ่มีผงฟูเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผงฟูมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกบนผิวฟันได้อย่างอ่อนโยน ทั้งยังช่วยไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต ลดคราบจุลินทรีย์ และป้องกันฟันผุ ดังนั้นเราสามารถใช้ผงฟู 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาแทนยาสีฟัน แปรงฟัน 2-3 นาที ประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ฟันขาวขึ้น
- รับประทานผักผลไม้ เหตุผลเพราะผลไม้มีกาก และเส้นใยจำนวนมาก ทำให้เมื่อเคี้ยวเส้นใยต่างๆ จะไปช่วยขจัดคราบบนฟันให้หลุดออก และผลไม้บางชนิด อย่างเช่น สับปะรด หรือมะละกอ ยังมีเอนไซม์ที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้น
- รักษาความสะอาดในช่อง เป็นวิธีพื้นฐานที่ได้ผลดี ซึ่งการรักษาความสะอาดนั้นต้องรวมหมดทั้งฟัน ลิ้น เหงือก เพราะแบคทีเรียไม่ได้อยู่เฉพาะแค่ฟัน แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟัน รวมถึงการใช้ยาสีฟัน Whitening หรือฟลูออไรด์ที่มีสารป้องกันฟันผุ
A title
Image Box text
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ : การใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี ..(คลิกอ่าน)
แก้ฟันเหลืองแบบเร่งด่วน
แก้ฟันเหลืองด้วยวีเนียร์ เคลือบฟัน (Veneer)
เป็นทางเลือกหนึ่งของการเปลี่ยนสีฟันให้สวยมั่นใจ วิธีการคือจะใช้แผ่นวัสดุบางๆ ที่มีขนาดพอดีกับฟันของเรามาเคลือบฟัน โดยวัสดุที่ทำแผ่นเคลือบฟันนั้นมักผลิตจากเซรามิกหรือพลาสติกชนิดเรซิ่น แต่เมื่อเทียบกันแล้วแผ่นเคลือบฟันจากเซรามิกจะมีความคงทน ช่วยป้องกันการเกิดคราบ และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ขณะเดียวกันก็มีราคาแพงกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ : วีเนียร์ ออกแบบรอยยิ้ม เคล็ดลับฟันสวยเหมือนดารา (คลิกอ่าน)
แก้ฟันเหลืองด้วย Airflow
เป็นอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ใช้นวัตกรรมการขัดฟันด้วยพลังงานจากน้ำ ลม และผงขัดชนิดพิเศษที่มีอณูเล็กมาก ๆ พ่นไปยังบริเวณผิวฟัน และซอกฟัน เพื่อให้คราบ และสีต่าง ๆ หลุดออกมา นับเป็นวิธีทำความสะอาดฟันที่สามารถขจัดคราบต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึก เพราะแรงดันสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง แม้ในบริเวณซอกฟันที่เข้าถึงยาก โดยระดับแรงดันจะถูกออกแบบมาเพื่อทำให้คราบหายไปแต่ไม่ทำร้ายผิวเคลือบฟัน
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ : ขูดหินปูน และขัดฟัน (คลิกอ่าน)
รีวิวฟอกสีฟัน แก้ฟันเหลืองภายใน 1 ชั่วโมง
รีวิว “ความประทับใจ” หลังทำ Teeth Whitening SPA
by คุณแบม x ศูนย์ทันตกรรม BIDC
แก้ฟันเหลืองด้วยการฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)
ในปัจจุบันการฟอกสีฟันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ การฟอกสีฟันที่ทำในคลินิกโดยทันตแพทย์จะเป็นคนทำให้ และการฟอกสีฟันที่คนไข้สามารถนำสารฟอกสีกลับไปทำเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันที่คลินิก
ด้วยเทคโนโลยี Zoom
ฟอกสีฟันไปทำเองที่บ้าน
(Home Bleaching)
นอกจากนี้ยังมีการรักษาฟันเหลืองอีกหลายวิธีขึ้นอยู่กับสภาพของฟัน และความเหมาะสม ทั้งนี้อาจจะให้ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่วยดูแลว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไร แล้ววิธีไหนที่จะมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
- ฟันขาว สะอาดเป็นธรรมชาติ โดยไม่สูญเสียเนื้อฟัน ใช้เวลาในการฟอกสีฟัน
- ฟอกสีฟันที่คลินิกใช้ประมาณ 1 ชั่วโมง เห็นผลลัพธ์การรักษาหลังจากทำเสร็จ
- ยิ้มโชว์ฟันสวยได้อย่างมั่นใจ
- เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับคุณ
- ผู้ที่ได้รับการฟอกสีฟันบางรายมีอาการเสียวฟันขณะฟอกสีฟัน และหลังฟอกสีฟันประมาณ 1-2 ชั่วโมงจากนั้นอาการเสียวฟันจะค่อย ๆ หายไป
- หลังจากฟอกสีฟัน ฟันอาจกลับมาเหลืองได้ แต่ถ้าอยากให้ฟันขาวยาวนานควรปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำ และสามารถใช้น้ำยาฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน โดยแจ้งทันตแพทย์เพื่อให้ทันตแพทย์พิมพ์ปากทำถาดพิมพ์สำหรับใส่น้ำยาฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล เพื่อให้พอดีกับฟันแต่ละคน เวลาใส่น้ำยาฟอกสีฟันจะได้ไม่โดนบริเวณเหงือก
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ : ฟอกสีฟัน ฟันขาวจริงมั้ย แบบไหนปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด (คลิกอ่าน)
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากฟันเหลือง!
- หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีสีเข้มๆ ที่มีผลให้สีฟันเปลี่ยน ถ้าจำเป็นควรใช้หลอด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่ม และฟัน หลังรับประทานอาหารควรดื่มน้ำเปล่าตาม
- เลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิดที่เป็นกรด เช่น โซดา มะนาว ที่จะกัดกร่อนสารเคลือบฟัน ทำให้สีของฟันเปลี่ยนได้
- การแปรงฟันแรงเกินไป แปรงแบบผิดวิธี หรือใช้ขนแปรงที่แข็งเกินไปจนทำลายชั้นผิวฟันโดยตรงได้
สรุป
สีของฟันสามารถบอกอะไรมากมายเกี่ยวกับความใส่ใจต่อสุขภาพช่องปาก และฟัน พร้อมทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงความใส่ใจในสุขภาพ รวมถึงอาหารหรือเครื่องดื่มที่รับประทานด้วย การที่เรามีสุขภาพช่องปาก และฟันที่แข็งแรง และขาวสะอาด จะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองได้ด้วยเช่นกัน เพราะรอยยิ้มที่สดใสจะมาพร้อมความมั่นใจเสมอ หากเราฟันเหลืองก็จะลดความมั่นใจในตัวเองลงไปได้
ติดต่อเรา คลินิกทันตกรรม BIDC รัชดา
ศูนย์ทันตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์
157, 159 รัชดาภิเษก ซอย7 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : +66 (2) 694 6400, +66 (2) 692 4433
อีเมล์ : contact@bangkokdentalcenter.com
Line ID : @bidcdental
สแกน QR Code ปรึกษาเราที่นี่